คำว่า“ผิดครู”ใช้กันเสมอในหมู่นักแสดงนาฏศิลป์และดนตรีไทย ซึ่งข้าพเจ้าขอนิยามคำว่า“ผิดครู” ว่า หมายถึงการที่ผู้แสดงคนนั้นกระทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องดีงามตามข้อบัญญัติหรือกฎเกณฑ์ที่หนังตะลุงคณะนั้นสืบถอดกันมา เช่น การไม่เคารพและไม่กราบไหว้ครูและอุปกรณ์การแสดงที่สำคัญ
เนื่องด้วยตัวหนังตะลุง เกิดจากการนำหนังสัตว์ที่ตายแล้วมาทำให้เป็นลวดลาย ดังนั้นจึงมีความเชื่อว่าวิญญาณของสัตว์เหล่านั้นอาจอาฆาตพยาบาทคนที่ทำให้ตนเองเสียชีวิต และอาจพาดพิงมายังคนอื่นด้วย อีกทั้งการแสดงโดยเฉพาะเรื่องรามเกียรติ์ยังเกี่ยวพันกับยักษ์ที่มีฤทธิ์เดชเกินมนุษย์ธรรมดา จึงต้องอาศัยบารมีครูบาอาจารย์ช่วยปกป้องคุ้มกันผู้แสดงอยู่ตลอดเวลา จึงมีข้อบัญญัติหรือกฎที่หัวหน้าคณะแต่ละคณะวางไว้ให้ลูกศิษย์ปฏิบัติตาม หากคนใดไม่ปฏิบัติจะถือว่าไม่เคารพครูบาอาจารย์ วิญญาณของครูบาอาจารย์จะไม่ปกปักษ์รักษา อาจถูกลงโทษหรืออาจถูกสิ่งที่ไม่ดีเข้าทำร้าย เช่น ทำให้เสียสติหรือทำให้ร่างกายเจ็บป่วย
ลักษณะที่เรียกว่า“ผิดครู”มีหลายรูปแบบ กรณีของนายหนังอำไพ สายสังข์ ซึ่งเล่าว่าตนเองเคยผิดครูมาแล้วครั้งหนึ่ง มีรายละเอียดดังนี้
“ครั้งหนึ่งเมื่อตั้งเวทีเสร็จเจ้าภาพยังไม่มา ผมจึงหาเครื่องกำนลเอง เมื่อหาได้แล้ว คล้อยหลังนิดหน่อยลูกสาวคนจ้างเอาเหล้ามาให้ขวดหนึ่งใส่ขวดแปลกดี บอกว่าเป็นเหล้าทำเอง ผมบอกว่าเหล้านี้ไม่ใช่เหล้ารัฐบาล คงกลั่นเองคงอร่อยนะ ผมเปิดฝาดื่มกินกันกับเพื่อน 5 คน กินก่อนไหว้ครู ลืมคิดถึง พอผมร้องๆ เท่านั้นแหละ ร้องเสียงไม่ออกไม่รู้เป็นไงเสียงหาย พูดไม่มีเสียง นึกขึ้นได้ พอจุดธูปบอกครูบาอาจารย์เท่านั้น เสียงกลับมา”
ภรรยานายฉะอ้อน นุดสมบัติ เหล่าเหตุการณ์ครั้งหนึ่ง ที่นายฉะอ้อน นุดสมบัติ มีอาการที่เชื่อว่า เกิดจากการผิดครู ดังนี้
“เมื่อก่อนก๋ง(หมายถึงนายฉะอ้อน)เขารับทำขวัญนาคด้วย งานทำขวัญนาคงานหนึ่ง ก๋งเขาไม่กล้าบอกเจ้าภาพขอเครื่องไหว้ครู เงิน บุหรี่ เหล้า ก๋งเอาเงินออกเอง เลยถูกครูใบศรีขวัญนาค นอนป่วย 2 ปีเต็ม นอนไม่ได้ นอนแล้วเห็นใบศรีใหญ่กลิ้งมาทับ ทำขวัญนาคได้แต่ตัวเหลือง รักษาไม่หาย ไปโรงพยาบาลก็ไม่รู้ เป็นจนตัวเหลือง หมอดูคนหนึ่งบอกว่าครูใบศรีกระทำ พอไหว้ขออภัย อาการดีขึ้นเรื่อยๆ หายไป”